bookmark_borderชาวบ้านแห่ส่อง เลขเด็ดจากพระพุทธรูปโบราณอายุ 200  ปีที่ถูกค้นพบในไห โบราณ 

          เมื่อวันที่ 15 เดือนมิถุนายนปีพศ 2564   ชาวบ้านจังหวัดนครพนมได้มีการพูดปากต่อปากเกี่ยวกับชาวบ้านคนหนึ่งซึ่งอยู่ในหมู่บ้านวังกระแสได้ค้นพบไหโบราณขนาดใหญ่  ด้วยไหนี้ถูกฝังอยู่ในพื้นที่ซึ่งเป็นที่นาของชาวบ้านคนหนึ่งในหมู่บ้านดังกล่าวและเมื่อเปิดให้ดูภายในไหโบราณนั้นพบว่ามีพระพุทธรูปขนาดประมาณ ความสูง 10 cm และความสูงประมาณ 7 เซนติเมตรรวมกันแล้ว

มีทั้งหมด 21 องค์ดูพระพุทธรูปแต่ละองค์นั้นสร้างมาจากเนื้อเงินบริสุทธิ์แท้ใต้ฐานของพระพุทธรูปแต่ละองค์นั้นมีการนำดินมาอุดปิดรูเอาไว้ โดยพระพุทธรูปทุกองค์นั้นเป็นพระพุทธรูปรุ่นปางมารวิชัยซึ่งลักษณะของพระพุทธรูปคาดว่าจะมีการสร้างขึ้นมาสมัยล้านช้างเลยทีเดียวด้วยอายุเก่าแก่นั้นตีได้โดยประมาณอยู่ที่ประมาณ 200 ปี  

         สำหรับผู้ที่ค้นพบ ไหโบราณที่มีพระพุทธรูปอยู่ด้านในนั้นชื่อว่านายเศียร  โดยนายเศียรนั้นได้มีการไปไถนาในไร่นาของตนเองซึ่งเขามีที่นาประมาณทั้งหมด 5 ไร่ด้วยกันระหว่างนั้นช่วงประมาณ 16:00 น ขณะที่กำลังทำงานอยู่นั้นปรากฏว่าในเสียงได้ใช้จอบไปขุดซ่อมคันนาแล้วเสียงไปพูดกระทบกับวัตถุชิ้นหนึ่งทำให้เกิดเสียงดัง นายเศียร จึงได้ดูว่าเป็นอะไร ก็พบว่าเป็นไหซึ่งถูกเสียงของนายเศียรทุบจนแตกกระจายและบริเวณด้านในของหายนั้นก็มีพระพุทธรูปมากมายเต็มไปหมดซึ่งพระพุทธรูปบางองค์นั้นก็ถูกเสียงทุบแต่พังเสียหายก็มี

        อย่างไรก็ตามในเสียงได้มีการไปแจ้งกับทางผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านให้เข้ามาดูไหโบราณและได้มีการเชิญเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องของวัตถุโบราณเข้ามาช่วยตรวจสอบ ซึ่งหลังจากที่ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปจากชาวบ้านที่มีการพูดคุยกันหลายคนจึงได้เดินทางมาเพื่อหวังที่จะมาดูพระพุทธรูปโบราณและสมัยโบราณพร้อมทั้งต้องการที่จะตีเลขเด็ดเอาไปซื้อหวยงวดที่ใกล้จะถึงนี้ 

       เมื่อเจ้าหน้าที่คำนวณ ข้อมูลแบบคร่าวๆแล้วว่าพระพุทธรูปและไหโบราณที่ค้นพบนั้นมีอายุเก่าแก่เกินกว่า 200 ปีทางด้านนาย เศียร ซึ่งเป็นเจ้าของที่เจอวัตถุโบราณคนแรกจึงได้นำวัตถุโบราณทั้งหมดนี้ไปที่วัดศรีรัตนวราราม  ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ห่างจากบ้านของนายเศียรประมาณ 1 กิโลเมตร  เพื่อนำของวัตถุโบราณทั้งหมดไปเก็บไว้ที่วัดแทนที่จะเก็บไว้ที่บ้านของตนเอง

             อย่างไรก็ตามที่วัดได้มีการจัดเตรียมกล่องกระจกซึ่งเป็นกระจกแก้วใสเอาไว้โดยความกว้างของกล่องกระจกนั้นจะมีความกว้างถึง 40 เซนติเมตรและยาวอยู่ที่ประมาณ 40 เซนติเมตรในขณะที่ความสูงนั้นอยู่ที่ 30 เซนติเมตรซึ่งหลวงพ่อได้นำพระพุทธรูปที่ค้นพบนั้นไปไว้ในกล่องสี่เหลี่ยมดังกล่าวแล้วนำไปตั้งไว้ที่ศาลาเพื่อให้ชาวบ้านนั้นได้มากราบไหว้ขอพรนอกจากนี้ยังมีหลายคนพยายามส่องไปที่พระพุทธรูปโดยเฉพาะที่ก้นพระพุทธรูปเพื่อจะส่องดูเลขและเอาไปซื้อลอตเตอรี่ตามความเชื่อของคนที่ชื่นชอบการซื้อหวยนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย    สูตรหวยฮานอยแม่นๆวันนี้

bookmark_borderอดค่าขนมเก็บเงินซื้อมาลัยธนบัติเพื่อเอาไปไหว้แม่ กลับเจอแบงค์ปลอม

        เมื่อวันที่ 13  เดือนสิงหาคม  เดือนสิงหาคมปีพศ2563 มีชาวบ้านคนหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้พาเด็กหญิงวัย 14 ปีเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจว่าโดนฉ้อโกง   ซึ่งผู้ที่พาลูกไปร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นชื่อว่านางวรรณภา  โดยเธอบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าลูกสาวของเธอนั้นได้มีการเก็บเงินเพื่อต้องการที่จะไปสั่งซื้อพวงมาลัยที่มีการเอาแบงค์ 20 มาพับเป็นพวงมาลัยลูกสาวของเธอนั้น

เห็นจากใน Facebook ว่ามีแม่ค้าคนนึงโพสต์ขายพวงมาลัยที่เป็นแบงค์ 20 โดยพวงมาลัยนั้นมีมูลค่าอยู่ที่ 340 บาทลูกสาวของเธอต้องการที่จะให้พวงมาลัยเพื่อไหว้ในวันแม่แต่เมื่อแกะออกดูปรากฏว่าแบงค์ที่พักเป็นดอกไม้นั้นมีของจริงเพียงแค่ 10 ดอกส่วนที่เหลืออีก 5 ดอกนั้นเป็นของปลอมเธอจึงเข้าแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นติดตามตัวแม่ค้าคนดังกล่าวมาดำเนินคดี

         สำหรับเด็กหญิงวัย 14 ปีนั้นเธอให้ข้อมูลว่าเธออยากเซอร์ไพรส์แม่ของเธอเธอจะได้อดข้าวแอบทำกับข้าวไปกินเองที่โรงเรียนและเก็บเงินที่แม่ให้ค่าขนมเป็นประจำทุกวันเมื่อได้ครบ 340 บาทเธอจึงไปซื้อพวงมาลัยตามที่เธอเห็นโพสขายใน Facebook หลังจากที่เธอไหว้แม่เสร็จแล้วแม่เธอนั้นให้พวงมาลัยกลับคืนมาเก็บไว้ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าเขาพักพวงมาลัยอย่างไรเธอจึงได้ลองแกะดูก็พบว่าธนบัตรที่นำมาพับเป็นดอกไม้นั้นเป็นแบงค์ปลอม

และเมื่อแกะออกดูทั้งหมดก็เห็นว่ามีแบงค์จริงแค่บางส่วนเท่านั้นเธอจึงนำเรื่องนี้ไปเล่าให้แม่ถึงเธอฟังหลังจากนั้นแม่ของเธอจึงได้นำเธอมาแจ้งความที่สถานีตำรวจให้ดำเนินคดีกับคนดังกล่าวซึ่งเธอบอกว่าเธอเสียความรู้สึกเป็นอย่างมากเพราะเธอนั้นมีความตั้งใจที่อยากจะทำเพื่อแม่ของเธอและฉันต้องใช้เวลานานกว่าเธอจะเก็บเงินมาซื้อพวงมาลัยให้แม่ของเธอได้แต่เธอกลับถูกพวกมิจฉาชีพหลอกลวงซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการติดตามตัวแม่ค้าคนดังกล่าวมาดำเนินคดี 

สำหรับการซื้อของผ่านทาง facebook หรือผ่านทางอินเทอร์เน็ตต่างๆนั้นเรามักจะค่อนข้างที่จะมีความเสี่ยงมากว่าอาจจะไม่ได้ของจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ดังนั้นก่อนซื้อสินค้าผ่านทาง facebook หรือผ่านทางระบบออนไลน์อื่นๆควรจะต้องมีการตรวจสอบร้านค้าดูก่อนว่ามีการถูกเขียนคอมเม้นเกี่ยวกับเรื่องของการฉ้อโกงไว้หรือไม่และร้านค้านั้นเปิดมานานแค่ไหนแล้วรวมถึงร้านค้ามีที่อยู่ที่เป็นหลักแหล่งหรือไม่เพื่อที่จะได้ป้องกันการถูกฉ้อโกงและสามารถติดตามที่อยู่ของแม่ค้าได้หากต้องการเปลี่ยนสินค้าหรือว่าสินค้าชำรุดนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  เว็บหวยออนไลน์อันดับ1

bookmark_borderศัลยกรรมเสริมหน้าอกในเกาหลีใต้เสียชีวิตแล้ว

 

     มีรายงานข่าวเข้ามาว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งอายุ 21 ปีเธอเป็นคนจังหวัดเพชรบูรณ์โดยหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นชื่อว่านางสาวพัชราภรณ์ ปัจจุบันได้เสียชีวิตลงและสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นเกิดมาจากการที่เธอนั้นไปทำศัลยกรรมหน้าอกที่ประเทศเกาหลีโดยพ่อแม่ของนางสาวพัชราภรณ์หรือว่าน้องกาฟิวให้ข้อมูลกับทางสำนักข่าวว่าลูกสาวของเธอนั้นไปทำงานที่ประเทศเกาหลีตั้งแต่ 3 ปีก่อนหน้านี้แล้ว

และอยู่ที่ประเทศเกาหลีมาโดยตลอดซึ่งปกติแล้วลูกสาวและพ่อกับแม่จะมีการโทรพูดคุยกันอยู่เป็นประจำแต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเพื่อนของลูกสาวที่ทำงานอยู่ที่ประเทศเกาหลีได้โทรมาบอกว่าลูกสาวเสียชีวิตเนื่องจากว่าไปศัลยกรรมหน้าอกโดยในตอนแรกนั้นทางโรงพยาบาลของประเทศเกาหลีออกมายอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

และพร้อมจะรับผิดชอบทั้งหมดรวมถึงจะคืนเงินค่าใช้จ่ายในเรื่องของการจ่ายค่าศัลยกรรมของลูกสาวด้วยแต่หลังจากนั้นก็เห็นทางโรงพยาบาลเงียบหายไปและเมื่อมีการติดต่อไปใหม่อีกครั้งทางโรงพยาบาลในประเทศเกาหลีใต้ก็ออกมาบอกว่าถ้าพ่อแม่ของน้องกาฟิวต้องการเงินชดเชยกรณีที่น้องกาฟิวเสียชีวิต

จะต้องมีการให้ทนายความไปติดต่อที่โรงพยาบาลของเกาหลีใต้โดยตรง อย่างไรก็ตามแต่ทางด้านพ่อแม่ของน้องกาฟิวนั้นมีฐานะยากจนและไม่มีความรู้และไม่รู้จักทนายที่มีฝีมือพอที่จะไปคุยกับโรงพยาบาลเกาหลีใต้จึงอยากที่จะให้รัฐบาลช่วยประสานงานให้ความช่วยเหลือส่วนทางด้านศพของน้องกาฟิวซึ่งขณะนี้ยังอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ทางด้านครอบครัวก็ได้มีการประสานงานไปทางสถานทูตโดยสถานทูตของไทยที่อยู่ในเกาหลีใต้ก็ได้มีการประสานงานส่งร่างของน้องกาฟิวกลับมายังประเทศไทยเพื่อให้พ่อแม่นั้นได้ประกอบพิธีทางศาสนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่อย่างไรก็ตามแต่ทางด้านพ่อกับแม่ของน้องกาฟิวยืนยันว่าพวกเขาจะยังไม่เผาศพของลูกสาวตนเองจนกว่าทางด้านประเทศเกาหลีใต้จะให้ความเป็นธรรมกับเรื่องที่ลูกสาวของเธอนั้นเสียชีวิตขณะที่ไปทำศัลยกรรมหน้าอกที่โรงพยาบาลในเกาหลีใต้นั่นเอง

       สำหรับเรื่องของการศัลยกรรมนั้นคนส่วนใหญ่นิยมไปทำที่ประเทศเกาหลีใต้เนื่องจากว่าเป็นประเทศที่มีฝีมือทางด้านศัลยกรรมและเวลาทำออกมาก็จะมีความสวยแต่การทำศัลยกรรมก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกันซึ่งบางครั้งผู้ที่ไปทำศัลยกรรมอาจจะมีอาการป่วยและมีอาการช็อกขณะที่ทำศัลยกรรมหรือเสียเลือดมากทำให้เสียชีวิตได้ทั้งนี้สาเหตุการเสียชีวิตของน้องกาฟิวคงต้องรอให้ทางโรงพยาบาลของเกาหลีใต้ออกมาชี้แจงว่าเหตุใดจึงเสียชีวิตจากการทำศัลยกรรมทรวงอกนั่นเอง

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  หวยจับยี่กี

bookmark_borderร้านเจ้เบียร์โดยแฉ ทำอาหารสกปรก ล้างจานในน้ำเก่า

 

           กำลังเป็นกระแสร้อนแรงในโลกออนไลน์เมื่อมีคนถ่ายคลิปขณะที่แม่ค้าคนหนึ่งกำลังทำอาหารให้กับลูกค้าโดยแม่ค้าคนดังกล่าวได้นำจานเปล่าจุ่มลงไปในน้ำซึ่งขณะนั้นน้ำที่แม่ค้าส่งไปนั้นมีแต่ความสุขกับโรคเพราะมีทั้งผักและน้ำก็มีสีคล้ำแต่หลังจากเอาจานจุ่มน้ำเสร็จแล้วแม่ค้ากับอาจารย์ดังกล่าวมาใส่อาหารแล้วนำไปเสิร์ฟลูกค้ากินซึ่งคลิปวีดีโอนี้ได้มีการแชร์ต่อๆกันไปในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก

และต่างคนก็วิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของแม่ค้าคนดังกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวนั้นเป็นการสร้างความสกปรกทำให้อาหารไม่สะอาดและอาจจะเป็นอันตรายต่อคนที่กินเข้าไปก็ได้ซึ่งร้านค้าที่ถูกนำมาเผยแพร่คลิปนี้เป็นร้านค้าที่ชื่อว่าเจ๊เบียร์ คนละยํา  ซึ่งเป็นร้านชื่อดัง   ซึ่งภายหลังจากที่มีการถูกแชร์คลิปนี้ออกไปทางผู้สื่อข่าวได้มีการไปสอบถามทางเจ๊เบียร์การณ์ที่เกิดขึ้นโดยเธอออกมายอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงและเธอขอโทษกับการกระทำดังกล่าวเธอบอกว่าปกติแล้วเธอจะมีการเปลี่ยนน้ำแต่ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนบ่อยมากนัก

เพราะหากต้องเปลี่ยนน้ำทุกครั้งที่มีการล้างจานเธอคงต้องเสียค่าน้ำแพงและไม่คุ้มค่ากับการขายของแน่นอนแล้วเธอไม่แคร์สำหรับใครก็ตามที่มาคอมเม้นต่อว่าเธอเนื่องจากว่าเธอเชื่อว่าลูกค้าที่มากินอาหารร้านของเธอคงดูออกว่าแบบไหนนั้นสกปรกแบบไหนนั้นพอที่จะเป็นได้ซึ่งเธอขายของแบบนี้มานานแล้วคงจะยังขายแบบนี้ต่อไปซึ่งหลังจากที่มีการให้สัมภาษณ์จากเจ๊เบียร์ไม่นานก็มีคลิปหลุดออกมาอีกครั้งโดยในครั้งนี้เป็นทริปที่ทางเจ๊เบียร์กำลังทำยำปูให้กับลูกค้าแต่ว่าปูดังกล่าวด้านหล่นลงไปในถังขยะซึ่งในคลิปจะเห็นว่าเจ๊เบียร์ก็ล้วงหยิบปืนในถังขยะขึ้น

มานำไปล้างน้ำและนำมาทำอาหารให้กับลูกค้ากินต่อเลยหลายคนมองว่าสิ่งที่เจ๊เบียร์ทำนั้นเป็นอาหารที่สกปรกและอาจจะทำให้คนที่กินเข้าไปเกิดโรคท้องร่วงท้องเสียได้ซึ่งหลายคนมองว่าต่อไปนี้อาจจะต้องลดการไปกินอาหารที่ร้านของเจ๊เบียร์หน้ากากร้านเจ๊เบียร์จะดูทหารแล้วก็สกปรกแล้วแม่ค้าเองก็ยังพูดจาไม่ค่อยสุภาพอีกด้วย

          หลังจากที่มีการเผยแพร่ข่าวเรื่องของร้านเจ๊เบียร์ออกมาผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามคนที่นำคลิปมาลงใน Facebook เธอเธอบอกว่าเธอเห็นวิธีการทำอาหารของเจ๊เบียร์มาสักพักแล้วเพราะเป็นลูกค้าของเจ๊เบียร์มานานโดยเธอมองว่าการทำอาหารของเจ๊เบียร์ไม่ได้อร่อยมากนักแล้วก็ค่อนข้างที่จะออกไปในแนวทางสกปรกแต่หลังจากที่เธอเห็นการล้างจานของเจ๊เบียร์

ซึ่งไม่ยอมที่จะเปลี่ยนน้ำแอบยังเอามาใส่จานให้กับลูกค้าเป็นอีกทำให้เธอรับไม่ได้และยิ่งมีคลิปโป้มาจากถังขยะแล้วมาทำอาหารให้ลูกค้ากินเธอยิ่งตัดสินใจได้เลยว่าต่อไปนี้เธอจะไม่กินอาหารของร้านเจ๊เบียร์อีกเลย

 

สนับสนุนโดย    แทงหวยจับยี่กี

bookmark_borderผัวขี้หึงเมาใช้เก้าอี้ตีเมีย ถูกแทงสวนด้วยกรรไกรดับ

        เรื่องราวความหึงหวงกันในครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดระยองที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากการทะเลาะวิวาทกันจึงได้เดินทางมาที่จุดเกิดเหตุพบว่าบริเวณที่เกิดเหตุนั้นผู้เสียชีวิตนอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักส่วนผู้บาดเจ็บนั้นทางด้านได้มีการนำตัวส่งโรงพยาบาลมงกุฎมาบตาพุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

และจากการให้ข้อมูลจากคนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงนั้นให้ข้อมูลว่าทั้งผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตนั้นเป็นสามีภรรยากันโดยผู้เสียชีวิตชื่อว่านายวรวุฒิส่วนภรรยานั้นชื่อนางวาสนาโดยทั้งคู่มักจะมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งคู่นั้นอาศัยอยู่ที่จังหวัดขอนแก่นแล้ว

เคยมีเรื่องทะเลาะตีกันจนถึงขนาดที่นางสาววาสนาก็มีการแจ้งความดำเนินคดีเอาไว้แต่ว่านายวรวุฒิก็ได้มีการรับปากกับนางสาววาสนาว่าจะไม่ทำร้ายนางสาววาสนาอีกทั้งคู่จึงกลับมาคืนดีกันและย้ายมาทำงานอยู่ที่จังหวัดระยองได้หลังจากมาทำงานอยู่ที่จังหวัดระยองได้ไม่นานนายวรวุฒิก็มีอาการหึงหวงนางสาววาสนาอีกครั้งและมักจะทะเลาะกันอย่างรุนแรงและมีเหตุตบตีกันอยู่เรื่อยจนในที่สุดในวันเกิดเหตุคือวันที่ 15 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2563 ช่วงเวลาประมาณ 11:00 น

ชาวบ้านได้ยินเสียงคนทั้งคู่ทะเลาะกันอยู่ภายในห้องพักหลังจากนั้นนางสาววาสนาก็ได้มีการผลักประตูออกมาซึ่งพบว่ามีอาการถูกแทงบริเวณลำตัวและที่หัวมีเลือดไหลนองเต็มไปหมดโดยเธอยังบอกกับชาวบ้านว่าเธอได้มีการแทงนายวรวุฒิจนเสียชีวิตส่วนตัวตัวเองนั้นก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสคนในพื้นที่จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการก่อนหลังจากนั้นจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงมาตรวจสอบพื้นที่สำหรับผู้เสียชีวิตนั้นถูกกรรไกรปักเข้าที่หน้าอกอยู่ตรงบริเวณด้านล่าง

ของลาวนมฝั่งทางด้านซ้ายทำให้นายวรวุฒิเสียชีวิตทันทีซึ่งจากการให้ข้อมูลของคนในพื้นที่เบื้องต้นทราบว่านายวรวุฒินั้นมีอาการหึงหวงเกิดขึ้นและทำร้ายร่างกายของนางสาววาสนาโดยในมนุษย์นั้นพยายามที่จะใช้กรรไกรแทงไปที่ร่างกายและหัวของนางสาววาสนาซึ่งตอนนั้นนางสาววาสนาได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว

แต่เธอก็สู้ขึ้นมาจึงได้พยายามแย่งกรรไกรมาจากมือของนายวรวุฒิหลังจากได้กรรไกรมาแล้วเธอก็แทงไปที่นายวรวุฒิ 1 ครั้งซึ่งเป็นจังหวะที่ตรงหน้าอกทางด้านซ้ายพอดีจึงทำให้นายวรวุฒิเสียชีวิตคาที่และเมื่อนายวรวุฒิล้มลงเธอจึงได้มีการเปิดประตูออกไปเพื่อขอความช่วยเหลือให้คนพาส่งโรงพยาบาล

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  แทงหวยฮานอย