bookmark_borderล้างหน้าบ่อยๆแล้วหน้าจะไม่มัน

ล้างหน้าบ่อยๆแล้วหน้าจะไม่มัน เรื่องราวที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้นั้น  เป็นสิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า  มีความน่าสนใจและน่าศึกษาเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

มันเกี่ยวข้องกับผิวหน้าและการล้างหน้าของเรา กิจวัตรประจำวันที่ใครหลายคน หรือว่า ตัวคุณเองก็จะคงเข้าใจผิด  เกี่ยวกับการล้างหน้าอยู่เสมอ ซึ่งในวันนี้สิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงเกี่ยวกับความเชื่อผิดๆ  ถ้าหากว่าเราล้างหน้าบ่อยๆแล้ว หน้าจะไม่มันทำไมเราถึงบอกว่ามันเป็นความเชื่อผิดๆ ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักเกี่ยวมันกัน 

หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นมาบนโลกของเรา  มีเรื่องราวมากมายที่คุณอาจยังไม่เคยได้รับรู้มาก่อนต่อให้เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวของเรามากๆก็ตาม  แต่ยังคงมีความเชื่อผิดๆที่เกิดขึ้นอยู่  ซึ่งในวันนี้เรื่องราวที่เรากำลังจะพูดถึงเป็นความเชื่อผิดๆ ที่คุณอาจยังไม่เคยได้รับรู้มันเกี่ยวข้องกับการล้างหน้า แล้วก็ใบหน้าของเราด้วย  ผิวของแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกันออกไป

  บางคนผิวมันบางคนผิวผสม บางคนผิวแห้งแน่นอนว่าปัญหาผิวของแต่ละพื้นผิวนั้น  มีแตกต่างกันออกไปแต่มันก็มีความเชื่อที่ว่า  ถ้าหากเราล้างหน้าบ่อยๆแล้วหน้าเราจะไม่มัน ซึ่งความเชื่อดังกล่าวนั้นเป็นความเชื่อที่ผิดมากๆ อย่างไรก็ตามทำไมเราถึงบอกว่ามันเป็นความเชื่อที่ผิด แล้วทำยังไงหน้าเราถึงจะไม่มัน 

ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเรื่องราวและข้อสงสัยดังกล่าว ในการสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้ามัน  หลายคนก็คงจะคิดว่าการล้างหน้าบ่อยๆนั้น จะทำให้หน้าไม่มัน  แต่มันจะทำให้ผิวหน้าของพวกเขาดีขึ้น ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ จากการล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ต่างๆบ่อยเกินไป แน่นอนมันจะทำให้ผิวหน้าของเราแห้งเกินไป

  แล้วร่างกายก็จะตอบสนองด้วยการผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น  จนกลายเป็นว่าหน้ามันมากขึ้นกว่าเดิมอีกครั้ง  การล้างหน้าบ่อยเกินไปนั้นมันก็ทำให้ผิวหน้าของเราเกิดการระคายเคือง  จนทำให้เกิดปัญหาสิวเพิ่มเติมขึ้นมาอีก ซึ่งจริงๆแล้วการล้างหน้าเพียงวันละ 2 ครั้งในตอนเช้าและตอนเย็น  มันก็เป็นเพียงพอสำหรับคนทั่วไปแล้ว

สุดท้ายนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม  ยังมีอะไรอีกมากมายที่เรายังไม่ได้พูดถึง  ถ้าคุณสนใจอยากจะทำความรู้จักกับผิวของมนุษย์เพิ่มเติมหรือว่าจะมีวิธีในการล้างหน้ายังไงบ้าง ให้เหมาะกับผิวแต่ละชนิดสามารถศึกษาเพิ่มเติมดูได้ การศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก็ไม่เสียหายอะไร

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย   เครื่องช่วยฟังฟรี

bookmark_border3 พฤติกรรมกระตุ้นไมเกรน

พฤติกรรมกระตุ้นไมเกรน เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับอาการไมเกรนอย่างแน่นอน เพราะอาการนี้เป็นอาการที่เกิดขึ้น เนื่องจากเรามีความเครียดเยอะเกินไป หรือมีความวิตกกังวล

เนื่องจากทำงานหนักมากเกินไปก็อาจทำให้เรา เสี่ยงต่อการเป็นไมเกรนได้ ถึงแม้ว่า คนส่วนใหญ่จะมองอาการนี้เป็นอาการที่เกิดขึ้นปกติ แต่รู้หรือไม่ว่าหากเราปล่อยไว้และไม่ทำการรักษาหรือ ไม่หาวิธีในการแก้ไข อาการไมเกรนที่มองว่าเป็นอาการธรรมดาอาจส่งผลกระทบอื่นๆต่อร่างกายของเราได้ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะทำงานหนักแค่ไหนหรือเครียดมากแค่ไหน

ก็ควรที่จะหาเวลาผ่อนคลายและบรรเทาความเครียดเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการเป็นไมเกรน อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะมีพฤติกรรมการกระตุ้นทำให้อาการไมเกรนนั้นกำเริบขึ้นมาได้ โดยไม่รู้ตัว

ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าจะมีพฤติกรรมไหนบ้างที่เป็นพฤติกรรมที่ช่วยกระตุ้น อาการไมเกรนของเราได้ เผื่อว่าคนส่วนใหญ่จะสามารถหลีกเลี่ยง จะมีพฤติกรรมไหนบ้างนั้นไปดูกันเลย

1.การอยู่ในสถานที่ที่มีแสงสว่างเกินไป

รู้หรือไม่ว่าการที่เราอยู่ในจีที่มีแสงสว่างมากเกินไป หรือที่ที่มีแสงแดด สว่างมากเกินไปนั้น ถือเป็นหนึ่งใน สิ่งที่ช่วยในการกระตุ้นโรคไมเกรนของเราได้ เพราะการที่ร่างกายของเราหรือสายตาของเรานั้นได้ทำการเปลี่ยนแสงกะทันหัน ก็จะยิ่งทำให้เรานั้นมีอาการวิงเวียนศีรษะหน้ามืด จนเป็นหนึ่งในผลกระทบต่อโรคไมเกรนนั่นเอง ดังนั้น หากเราอยู่ในที่มืด หรือที่ที่มีแสงสว่าง ไม่ควรที่จะปรับเปลี่ยนเร็วเกินไปเพราะอาจทำให้ร่างกายของเรานั้นปรับความสมดุลไม่ทัน

2.การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ

แน่นอนว่าหนึ่งในพฤติกรรมนี้ก็ถือเป็นพฤติกรรมที่กระตุ้น โรคไมเกรนได้ เพราะการที่ร่างกายของเราได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือสำหรับใครที่มีพฤติกรรมการนอนดึก ตื่นเช้า หรือนอนไม่พอ จนอาจส่งผลให้ร่างกายของเรานั้นอ่อนเพลีย จนเกิดความเครียดได้ง่าย ซึ่งนี่ก็อาจเป็นหนึ่งพฤติกรรมที่คนส่วนใหญ่นั้นนิยมทำ จึงทำให้คนส่วนใหญ่ เสียงประกันเป็นโรคไมเกรนได้ง่ายนั่นเอง

3.การอดอาหารมากเกินไป

รู้หรือไม่ว่าการที่ร่างกายของเราได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ นอกจากจะส่งผลกระทบต่อร่างกายในด้านอื่นๆแล้ว ยังเป็นหนึ่งใน สิ่งที่จะกระตุ้นโรคไมเกรนของเราได้ เพราะการที่ร่างกายของเราไม่ได้รับสารอาหาร หรือไม่ได้รับอาหารเลยในแต่ละวัน ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายของเรานั้น โมโหหิว เครียด จนส่งผลให้เป็นโรคไมเกรนนั่นเอง ดังนั้น หากต้องการป้องกันและหลีกเลี่ยง ทางที่ดีเราก็ไม่ควรที่จะอดอาหาร เพราะอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารได้

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังฟรี